จากการประชุมปฏิบัติการระดมความคิดเพื่อจัดทำแผนพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ ครั้งที่ 1 นี้ สามารถรวบรวมปัญหาที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ รวมถึงข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาต่างๆที่ได้รับการเสนอจากผู้ร่วมสัมมนาในสาขาที่เกี่ยวข้อง ดังแสดงในตารางต่อไปนี้

 

ตาราง สรุปปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาที่ได้จากการสัมมนา

ปัญหา

แนวทางแก้ปัญหา

ปัญหาการเงิน

- อุตสาหกรรมด้านนี้ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

- บริษัทที่เพิ่งเริ่มทำการลงทุนมีเงินทุนไม่เพียงพอในการผลิตผลงาน

- การขอเงินทุนจากแหล่งเงินทุนต่างๆมีความยากลำบาก

 

- หน่วยงานรัฐบาลทำการสนับสนุนเงินลงทุนในขั้นตอนเริ่มต้นการผลิต หรือพรีโปรดักชัน (Pre-production)

- หน่วยงานรัฐบาลช่วยจัดระบบการขอเงินทุนจากแหล่งเงินทุนต่างๆให้มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

- สนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาใช้รหัสโปรแกรมแบบเปิดเผยได้ (Open source) ในการพัฒนาผลงาน

- รัฐบาลช่วยต่อรองซื้อซอฟต์แวร์ในราคาต่ำ ในรูปแบบลิขสิทธิ์ของประเทศ (National license)

ปัญหาการตลาด

- ขาดโอกาสในการพบเจอกัน

- ขาดการสนับสนุนช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

- ผู้ประกอบการส่วนมากขาดความสามารถด้านการตลาด

 

- จัดการพบเจอกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

- หน่วยงานรัฐบาลช่วยสนับสนุนโดยหาช่องทางการตลาดให้

- ทำการรวบรวมผลงานจากการประกวด และเสนอสู่ตลาด

ปัญหาบุคลากร

- บุคลากรขาดคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และจรรยาบรรณบุคคล มีความสามารถไม่ตรงกับความต้องการ

- บริษัทต้องพัฒนาบุคลากรเอง

- เกิดการย้ายงานหลังเป็นงาน

 

- สร้างมาตรฐานหลักสูตรการเรียนการสอน, ตั้งมาตรฐานในการวัดและควบคุมคุณภาพ

- กำหนดขอบเขตการถ่ายโอนเทคโนโลยี

- ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลักสูตร

- สนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วมกับภาคการศึกษาในการวางหลักสูตรการเรียนการสอน

ปัญหาแหล่งข้อมูลและความรู้

- ขาดศูนย์รวมข้อมูลต่างๆ

- ขาดแหล่งความรู้

- หนังสือภาษาต่างประเทศนั้นเข้าใจยากสำหรับคนไทยและมีราคาสูง

 

- ทำการจัดตั้งแหล่งรวบรวมข้อมูลกลาง ที่สามารถหาข้อมูลทุกอย่างได้จากแหล่งเดียว

- หน่วยงานรัฐบาลทำการสนับสนุนในการจัดตั้งทีมแปลเพื่อแปลข้อมูลและองค์ความรู้จากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย

ปัญหาการกำหนดราคาและการชำระเงิน

- การกำหนดราคาของแต่ละบริษัทไม่เป็นมาตรฐาน กำหนดราคาที่แตกต่างกันไป

- การผัดผ่อนเวลาชำระเงิน

 

 

- ทำการรวมกลุ่มกันในภาคอุตสาหกรรมเพื่อร่วมกันกำหนดสัญญากลางและกฎหมายที่ชัดเจน

ปัญหาด้านทัศนคติ

- คนไทยนิยมผลงานต่างชาติ

- ขาดการยอมรับจากต่างชาติ

 

- รัฐบาลควรใช้สื่อที่ผลิตภายในประเทศเพื่อกระตุ้นการสนับสนุนผลงานที่ผลิตในประเทศไทย

- ผู้ประกอบการต่างๆร่วมมือกันทำผลงานตัวอย่างของประเทศ(National demo) เพื่อเป็นการแสดงความสามารถของคนไทย

ปัญหาการแทรกแซงจากต่างชาติ

- ผู้ประกอบการไทยแข่งขันสู้กับต่างชาติที่เข้ามาลงทุนไม่ได้

 

- หาแนวทางกรอบการทำงานร่วมกับบริษัทข้ามชาติ เช่น กำหนดอัตราส่วนผู้ลงทุนต่างชาติและผู้ร่วมลงทุนไทย

ปัญหาขาดความรู้เรื่องลิขสิทธิ์

- ขาดความรู้ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา

 

- จัดการสัมมนาอบรมความเข้าใจด้านลิขสิทธิ์

ปัญหาขาดความรู้ในการพัฒนาอุตสาหกรรม

- ไม่มั่นใจในทิศทางการพัฒนา

 

 

- เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาแนะนำแนวทางในการพัฒนา

ปัญหาการปรับเปลี่ยนนโยบาย

- มีการปรับเปลี่ยนนโยบายบ่อย

 

 

- รัฐบาลควรระบุนโยบายที่ชัดเจนและมั่นคง

ปัญหาค่าใช้จ่ายในการขอใบรับรอง

- ค่าใช้จ่ายในการขอใบรังรองสูง

 

 

- หน่วยงานรัฐบาลจัดให้มีการรวมตัวกันเพื่อทำการสอบในราคาที่ต่ำลง

ปัญหาขาดมาตรฐานวิชาชีพ

- ขาดมาตรฐานวิชาชีพ

 

- ทำการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพและประกาศใช้โดยเร็ว

ปัญหาขาดมาตรฐานเนื้อหาของผลงาน

- ขาดมาตรฐานเนื้อหาดิจิทัล

 

 

- ทำการกำหนดมาตรฐานดิจิทัลคอนเทนท์

 

 

เมื่อนำข้อเสนอต่างๆมาวิเคราะห์และสรุปผล จะสามารถนำเสนอนโยบายในการวางแผนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ตามความต้องการของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ ดังนี้

 

นโยบายระยะสั้นในการวางแผนของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์

1. นโยบายส่งเสริมด้านการตลาดให้เกิดโอกาสช่องทางธุรกิจมากขึ้น โดย

- จัดการพบเจอกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (Business matching)

- จัดตั้งหน่วยงานในการให้บริการด้านการตลาด เพื่อดำเนินการตลาดแทนผู้ผลิตผลงาน โดยรวบรวมผลงานจากผู้ประกอบการและผลงานจากการประกวดต่างๆออกสู่ตลาด

- สนับสนุนการทำงานร่วมกับบริษัทข้ามชาติอย่างมีขอบเขต เพื่อควบคุมต่างชาติให้เข้ามามีบทบาททางธุรกิจอย่างเหมาะสมและไม่เป็นการปิดกั้นเกินไป เช่น กำหนดอัตราส่วนผู้ลงทุนต่างชาติต่อผู้ลงทุนไทย เป็นต้น

2. นโยบายสนับสนุนแหล่งข้อมูลและความรู้ โดย

- จัดตั้งแหล่งรวบรวมข้อมูลกลางซึ่งรวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์

- จัดตั้งทีมแปลเพื่อแปลข้อมูลและองค์ความรู้ต่างๆจากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย

- จัดตั้งโครงการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในด้านต่างๆ เช่น ความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ขั้นตอนการจดลิขสิทธิ์ และแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นต้น

3. นโยบายสนับสนุนการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนา

                - การจัดตั้งสมาคมที่เกี่ยวข้อง เช่น จัดตั้งสมาคมอีเลิร์นนิง

- กำหนดเจาะจงประเภทธุรกิจหลักในแต่ละกลุ่มสาขาอุตสาหกรรม เช่น ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกม ธุรกิจ ประเภทเกมโทรศัพท์มือถือจะมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าเกมประเภทอื่นๆ จึงต้องการการสนับสนุนมากกว่าประเภทอื่น

 

นโยบายระยะยาวในการวางแผนของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์

 

1. นโยบายสนับสนุนด้านเงินทุน โดย

- สนับสนุนงบประมาณในการผลิตผลงานส่วนเริ่มต้น (Pre-production)

- จัดตั้งโครงการเพื่อจัดระบบการขอเงินทุนจากแหล่งเงินทุนต่างๆให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

- รณรงค์แนะนำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้รหัสโปรแกรมแบบเปิดเผยได้ (Open source) ในการผลิตผลงาน เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายการลงทุนด้านลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

2. นโยบายส่งเสริมและพัฒนาด้านบุคลากร เช่น

- กำหนดแผนพัฒนาบุคลากร โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการปรับหลักสูตรการศึกษา

- สนับสนุนการถ่ายโอนเทคโนโลยีแบบมีขอบเขต

- รณรงค์ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการต่างๆในการสนับสนุนสถานที่ฝึกงาน

3. นโยบายสนับสนุนการสร้างทัศนคติที่ดีต่อผลงานไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เช่น

                - จัดทำโครงการรณรงค์ให้คนไทยเกิดจิตสำนึกในการใช้ผลงานไทย

          - กำหนดช่วงเวลาในการนำเสนอผลงานไทยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์

                - สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตผลงานให้ทันยุคสมัยไม่ยึดติดกรอบวัฒนธรรมมากเกินไป

- สนับสนุนงบประมาณให้ผู้ประกอบการต่างๆร่วมมือกันผลิตตัวอย่างผลงานในนามของประเทศ (National demo) เพื่อแสดงศักยภาพและความสามารถของผู้ผลิตผลงานไทย ให้เกิดการยอมรับจากต่างชาติ

4. นโยบายสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น

- มาตรฐานการเรียนการสอน รวมทั้งตั้งมาตรฐานในการวัดและควบคุมคุณภาพ

- มาตรฐานวิชาชีพ

- มาตรฐานเนื้อหาผลงานดิจิทัล

- สัญญากลางหรือกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรฐานราคาและการชำระเงิน

-  สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการสอบมาตรฐาน