การสอบปลายภาค: PART A

เขียนตอบแต่ละข้อเริ่มด้วยเลขข้อในรูปแบบ <เลขข้อ> เช่น
<1> E
<2>
<3> B
และอย่าลืมกด SUBMIT ด้วย (ส่งได้หลายครั้ง จะตรวจครั้งล่าสุด)

<1>
ข้อใดมีค่าไม่ใกล้เคียงรากที่สองของ 81

A) 192 / 2
B) pow(81, 0.5)
C) 81 ** 1/2 
D) math.sqrt(81)
E) ใกล้เคียงทุกข้อ
<2>
คำสั่งข้อใดมีโอกาสเกิด error ตอนทำงาน
(ตัวแปร b กับ c มีค่ากำหนดให้แล้ว)

A) a = b + c
B) a = b - c
C) a = b / c
D) a = b * c
E) มีโอกาสเกิด error ได้ทุกข้อ 
<3>
ข้อใดทำงานแล้วจะวนในวงวนไม่สิ้นสุด

A) a = 227
   while a != 0:
     a %= 11    
B) a = 227
   while a != 0:
     a //= 2
C) a = 227
   while a != 0:
     a -= 1
D) มีข้อที่ทำงานแล้วติดในวงวน 2 ข้อ 
E) ทุกข้อทำงานได้ไม่ติดในวงวน
<4>
ให้ x เป็นลิสต์เก็บจำนวนเต็ม 
ข้อใดได้ค่าของตัวแปร s ต่างจากข้ออื่น

A) s = 0
   for i in range(len(x),0,-1):
     s += x[i] 
B) s = 0
   for i in range(0,len(x),1):
     s += x[i]
C) s = 0
   for e in x[::-1]:
     s += e
D) s = 0
   for e in x[1::2]+x[::2]:
     s += e
E) ทุกข้อได้ s มีค่าเท่ากันหมด
<5>
ถ้าต้องการแสดงคำอ่านของเลขหนึ่งตัวในตัวแปร d
ออกทางจอภาพ ต้องเติมอะไรลงแทน ??? และ ***
ของโปรแกรมข้างล่างนี้ ตามลำดับ
(ให้เลขที่อินพุตเป็น 1,2,3 หรือ 4 เท่านั้น)

s = "[1:one][2:two][3:three][4:four]"
d = input()
sidx = s.find(d)+ ???       # <----
eidx = s.find("]",sidx)
print(s[sidx: eidx+  *** ]) # <----

A) 1 กับ -1
B) 0 กับ 0
C) 2 กับ -1
D) 2 กับ 0 
E) ไม่มีข้อใดถูก
<6>
ให้โปรแกรม Python ชื่อ p.py มีบรรทัดเดียวคือ
 
print(open("p.py").readline().strip()) 

ถ้าสั่งโปรแกรมนี้ทำงานจะได้ผลอะไรทางจอภาพ

A) print(open("p.py").readline().strip()) 
B) open("py.py").readline().strip()
C) readline().strip()
D) โปรแกรมทำงานแล้วเกิด error 
E) ไม่สามารถสรุปได้ว่าจะแสดงอะไร
<7>
ให้ x เป็น numpy array หนึ่งมิติเก็บจำนวนเต็ม
ฟังก์ชันใดคืน mode ของข้อมูลใน x
mode คือข้อมูลที่ปรากฏเป็นจำนวนครั้งมากสุดใน x
ถ้ามีตัวที่เป็น mode หลายตัว ให้คืนตัวซ้ายสุด
(สมมติว่าได้ import numpy as np แล้ว)

A) def mode(x):
     t = x.reshape((x.shape[0],1))
     return np.max(np.sum(x==t, axis=1))
B) def mode(x):
     return np.max(np.sum(x.dot(x.T),axis=1))
C) def mode(x):
     y = np.array([x]).T
     c = np.sum(x==y, axis=0)
     return x[np.argmax(c)] 
D) def mode(x):
     t = x.reshape((x.shape[::-1]))
     return x[np.argmax(np.sum(x==t, axis=1))]
E) ไม่มีข้อใดถูก
<8>
ให้ d เป็น dict ที่มี 
- key เป็นรหัสสินค้า
- value เก็บลิสต์ของรหัสสาขาร้านที่ยังมีสินค้านี้เหลืออยู่

ข้อใดสร้าง s เป็น dict ที่มี 
- key เป็นรหีสสาขาร้าน
- value เก็บเซตของรหัสสินค้าต่าง ๆ ที่ร้านนี้มีขาย

A) s = {}
   x = [(k,e) for k in d for e in d[k]]
   for k,e in x: 
     s[e] = set()
   for k,e in x: 
     s[e].add(k)  
B) s = dict([(d[k],k) for k in d])
C) s = {}
   for v in d.values:
     if v not in s: 
       s[v] = set()
     s[v].add(d[v])
D) s = {}
   x = [(k,e) for k in d for e in d[k]]
   for k,e in x: 
     s[e].update(k)
E) ไม่มีข้อใดถูก
<9>
ให้ d เป็น dict มี
- คีย์ ชื่อจังหวัด, value เป็น dict ที่มี
  - คีย์ 'region', value เก็บชื่อย่อภาค
  - คีย์ 'population', value เก็บจำนวนประชากร
- ชื่อย่อภาคประกอบด้วย N, E, W, S, C, NE
นักเรียนคนหนึ่งเขียนฟังก์ชัน f(d) ข้างล่างนี้ มีหน้าที่
คืน dict ที่มีคีย์เป็นภาค, value เก็บจำนวนจังหวัดในภาค

def f(d):
  c = {'NE':0, 'C':0, 'N':0, \
       'E':0, 'W':0, 'S':0}
  for p in d:        
    r = d[p]['region']  # บรรทัด I
    for k in c:         # บรรทัด II
       if r in k:       # บรรทัด III
          c[r] += 1     # บรรทัด IV
          break         # บรรทัด V
  return c

หลังจากทดสอบการทำงานแล้ว พบว่า ได้คำตอบเกือบถูก
ถ้าจะปรับฟังก์ชันนี้ ด้วยจำนวนการแก้ไขคำสั่งให้น้อยสุด ๆ
เพื่อให้ทำงานได้ถูกต้อง ต้องแก้ไขที่บรรทัดใด

A) บรรทัด III 
B) บรรทัด II
C) บรรทัด I
D) บรรทัด IV
E) บรรทัด V
<10>
ข้อใดตรวจตัวแปร c ที่เก็บตัวพิมพ์เล็กตัวเดียวว่า
เป็น v, w, x, y หรือ z หรือไม่

A) if c == "vwxyz" :
B) if 'v' =< c =< 'z' :
C) if c.find("vwxyz") != -1 :
D) if c is in "vxwyz" :
E) ไม่มีข้อใดถูก 
<11>
ข้อใดตั้งเป็นชื่อฟังก์ชันได้

A) ___________
B) __-__-__-__
C) False
D) ._._._._._.
E) ไม่มีข้อใดถูก
<12>
ฟังก์ชัน f มีรายละเอียดข้างล่างนี้

def f(x, y):
    for e in x:
        y += e
    return y

คำสั่งในข้อใดทำงานแล้วไม่เกิด error

A) f(123, 456)
B) f([1,2,3], [1,2,3])
C) f('123', '456') 
D) f({1,2,3}, {4,5,6})
E) มีข้อที่ไม่เกิด error มากกว่า 1 ข้อ
<13>
ให้ d เป็น numpy array ขนาด 111x111 
ให้ N = d.shape[0] และ M = d.shape[1]
(สมมติว่าได้ import numpy as np แล้ว)

ข้อใดทำให้ข้อมูลในแถวแนวนอนอินเด็กซ์เลขคู่ทั้งหมด
มีค่าเป็น 0 ทั้งแถว

A) d[-2::-2, ::] = 0 
B) d[range(1,N,2), range(M)] = 0
C) d[np.arange(N)%2==1, np.arange(M)] = 0
D) d[0:-1:2] = [0]
E) ไม่มีข้อใดถูก
<14>
ให้ y เก็บเลขปี ค.ศ. เดือน ก.พ. มี 29 วัน เมื่อ
- y หารด้วย 4 ลงตัว แต่หารด้วย 100 ไม่ลงตัว
- ยกเว้นกรณีที่ y หารด้วย 400 ลงตัว ก็มี 29 วัน

คำสั่งใดที่หาจำนวนวันในเดือนกุมภาพันธ์
ของปี ค.ศ. y ไม่ถูกต้อง

A) d = 28
   if y%400==0 or y%4==0 and y%100!=0:
     d = 29
B) d = 29
   if (y%4!=0 or y%100==0) and y%400!=0:
     d = 28
C) if (y%4==0 and y%100!=0) or y%400==0:
     d = 29
   else:
     d = 28
D) มีถูก 2 ข้อ ผิด 1 ข้อ  
E) ข้อ A, B และ C ถูกหมด 
<15>
ผู้เขียนตั้งใจให้โปรแกรมข้างล่างนี้ รับสตริงทางคีย์บอร์ด
แล้วนับว่า สตริงนั้นมีเลขคี่อย่างละกี่ตัว  
เมื่อนำโปรแกรมนี้ไปทำงานแล้วป้อน --1-9-1-- เป็นอินพุต
จะเกิด error ที่คำสั่งในบรรทัดใด

c = dict()                # บรรทัดที่ 1
for e in input().split(): # บรรทัดที่ 2
  if e != [0,2,4,6,8] :   # บรรทัดที่ 3
    c[e] += 1             # บรรทัดที่ 4    
print(c)

A) บรรทัดที่ 1
B) บรรทัดที่ 2
C) บรรทัดที่ 3
D) บรรทัดที่ 4 
E) ทำงานได้ปกติ ไม่เกิด error