<1> |
ให้โปรแกรม Python ชื่อ p.py มีบรรทัดเดียวคือ
print(open("p.py").readline().strip())
ถ้าสั่งโปรแกรมนี้ทำงานจะได้ผลอะไรทางจอภาพ
A) open("py.py").readline().strip()
B) readline().strip()
C) print(open("p.py").readline().strip())
D) โปรแกรมทำงานแล้วเกิด error
E) ไม่สามารถสรุปได้ว่าจะแสดงอะไร |
<2> |
คำสั่งข้อใดมีโอกาสเกิด error ตอนทำงาน
(ตัวแปร b กับ c มีค่ากำหนดให้แล้ว)
A) a = b * c
B) a = b + c
C) a = b / c
D) a = b - c
E) มีโอกาสเกิด error ได้ทุกข้อ |
<3> |
ฟังก์ชัน f มีรายละเอียดข้างล่างนี้
def f(x, y):
for e in x:
y += e
return y
คำสั่งในข้อใดทำงานแล้วไม่เกิด error
A) f(((1), (2), (3)), [4,5,6])
B) f({123}, [456])
C) f([1,2,3], (4,5,6))
D) f(((1,),(2,), (3,)), (4,5,6))
E) มีข้อที่ไม่เกิด error มากกว่า 1 ข้อ |
<4> |
ให้ d เป็น dict ที่มี
- key เป็นรหัสลูกค้า
- value เก็บลิสต์ของชื่อเกมที่ลูกค้าคนนี้ได้ซื้อไปแล้ว
ข้อใดแสดงจำนวนชื่อเกมที่แตกต่างกันทั้งหมดที่ได้ขายไปแล้ว
A) c = 0
for k,v in d.items():
c += len(v)
print(c)
B) c = 0
for k in d:
for e in d[k]:
c += 1
print(c)
C) c = {}
for k in d:
c = c.union(d[k])
print(len(c))
D) ในตัว A, B, C มีถูก 2 ข้อ
E) ไม่มีข้อใดถูก |
<5> |
เมื่อโปรแกรมข้างล่างนี้ทำงาน จะแสดงผลอะไร
x = [1,2]+[3,4,5]*1000
print(x.pop(len(x)-5))
A) 1
B) 2
C) 3
D) 4
E) 5 |
<6> |
ให้ d เป็น numpy array ขนาด 100x100
ให้ N = d.shape[0] และ M = d.shape[1]
(สมมติว่าได้ import numpy as np แล้ว)
ข้อใดทำให้ข้อมูลในแถวแนวนอนอินเด็กซ์เลขคี่ทั้งหมด
มีค่าเป็น 0 ทั้งแถว
A) d[range(0,N,2), range(M)] = 0
B) d[1:-1:2] = [0]
C) d[np.arange(N)%2==0, np.arange(M)] = 0
D) d[::-2, ::] = 0
E) ไม่มีข้อใดถูก |
<7> |
ให้ x เป็น numpy array หนึ่งมิติเก็บจำนวนเต็ม
f(x) ในข้อใดคืนจริง เมื่อ x มีข้อมูลในที่ซ้ำกัน
เกิน 50% ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด ถ้าไม่มีคืนเท็จ
(สมมติว่าได้ import numpy as np แล้ว)
A) มีข้อที่ทำได้ตามต้องการ 2 ข้อ
B) def f(x):
N = x.shape[0]
s = np.sum(x.dot(x.T),axis=0)
m = np.max(s)
return m > N/2
C) def f(x):
N = x.shape[0]
c = np.sum(x == sorted(x)[N//2])
return c > N/2
D) def f(x):
N = x.shape[0]
y = np.array([x]).T
m = np.max(np.sum(x==y, axis=0))
return m > N/2
E) ไม่มีข้อใดถูก |
<8> |
เครื่องหมายคณิตศาสตร์ใดถูกทำเป็นลำดับที่ 5
ในนิพจน์ 4*5-2%(5+2)/32
A) -
B) +
C) *
D) %
E) / |
<9> |
ผู้เขียนตั้งใจให้โปรแกรมข้างล่างนี้ รับสตริงทางคีย์บอร์ด
แล้วนับว่า สตริงนั้นมีเลขคี่อย่างละกี่ตัว
เมื่อนำโปรแกรมนี้ไปทำงานแล้วป้อน --1-9-1-- เป็นอินพุต
จะเกิด error ที่คำสั่งในบรรทัดใด
c = dict() # บรรทัดที่ 1
for e in input().split(): # บรรทัดที่ 2
if e != [0,2,4,6,8] : # บรรทัดที่ 3
c[e] += 1 # บรรทัดที่ 4
print(c)
A) บรรทัดที่ 3
B) บรรทัดที่ 4
C) บรรทัดที่ 1
D) บรรทัดที่ 2
E) ทำงานได้ปกติ ไม่เกิด error |
<10> |
ให้ y เก็บเลขปี ค.ศ. เดือน ก.พ. มี 29 วัน เมื่อ
- y หารด้วย 4 ลงตัว แต่หารด้วย 100 ไม่ลงตัว
- ยกเว้นกรณีที่ y หารด้วย 400 ลงตัว ก็มี 29 วัน
คำสั่งใดที่หาจำนวนวันในเดือนกุมภาพันธ์
ของปี ค.ศ. y ไม่ถูกต้อง
A) d = 28
if y%400==0 or y%4==0 and y%100!=0:
d = 29
B) if (y%4==0 and y%100!=0) or y%400==0:
d = 29
else:
d = 28
C) d = 29
if (y%4!=0 or y%100==0) and y%400!=0:
d = 28
D) มีถูก 2 ข้อ ผิด 1 ข้อ
E) ข้อ A, B และ C ถูกหมด |
<11> |
ถ้าต้องการแสดงคำอ่านของเลขหนึ่งตัวในตัวแปร d
ออกทางจอภาพ ต้องเติมอะไรลงแทน ??? และ ***
ของโปรแกรมข้างล่างนี้ ตามลำดับ
(ให้เลขที่อินพุตเป็น 1,2,3 หรือ 4 เท่านั้น)
s = "[1:one][2:two][3:three][4:four]"
d = input()
sidx = s.find(d)+ ??? # <----
eidx = s.find("]",sidx)
print(s[sidx: eidx+ *** ]) # <----
A) 0 กับ 0
B) 2 กับ -1
C) 2 กับ 0
D) 1 กับ -1
E) ไม่มีข้อใดถูก |
<12> |
ข้อใดทำงานแล้วจะวนในวงวนไม่สิ้นสุด
A) a = 227
while a != 0:
a //= 2
B) a = 227
while a != 0:
a -= 1
C) a = 227
while a != 0:
a %= 11
D) มีข้อที่ทำงานแล้วติดในวงวน 2 ข้อ
E) ทุกข้อทำงานได้ไม่ติดในวงวน |
<13> |
ข้อใดตรวจตัวแปร c ที่เก็บตัวพิมพ์เล็กตัวเดียวว่า
เป็น v, w, x, y หรือ z หรือไม่
A) if c == "vwxyz" :
B) if c is in "vxwyz" :
C) if 'v' =< c =< 'z' :
D) if c.find("vwxyz") != -1 :
E) ไม่มีข้อใดถูก |
<14> |
ให้ d เป็น dict มี
- คีย์ ชื่อจังหวัด, value เป็น dict ที่มี
- คีย์ 'region', value เก็บชื่อย่อภาค
- คีย์ 'population', value เก็บจำนวนประชากร
- ชื่อย่อภาคประกอบด้วย N, E, W, S, C, NE
นักเรียนคนหนึ่งเขียนฟังก์ชัน f(d) ข้างล่างนี้ มีหน้าที่
คืน dict ที่มีคีย์เป็นภาค, value เก็บจำนวนจังหวัดในภาค
def f(d):
c = {'NE':0, 'C':0, 'N':0, \
'E':0, 'W':0, 'S':0}
for p in d:
r = d[p]['region'] # บรรทัด I
for k in c: # บรรทัด II
if r in k: # บรรทัด III
c[r] += 1 # บรรทัด IV
break # บรรทัด V
return c
หลังจากทดสอบการทำงานแล้ว พบว่า ได้คำตอบเกือบถูก
ถ้าจะปรับฟังก์ชันนี้ ด้วยจำนวนการแก้ไขคำสั่งให้น้อยสุด ๆ
เพื่อให้ทำงานได้ถูกต้อง ต้องแก้ไขที่บรรทัดใด
A) บรรทัด IV
B) บรรทัด III
C) บรรทัด II
D) บรรทัด I
E) บรรทัด V |
<15> |
ข้อใดตั้งเป็นชื่อฟังก์ชันได้
A) $_$_$
B) __-__
C) 1_2_3
D) _x_x_
E) ไม่มีข้อใดถูก |