เขียนตอบแต่ละข้อเริ่มด้วยเลขข้อในรูปแบบ <เลขข้อ>
<1> E <2> <3> B
<1> |
ข้อใดมีค่าไม่ใกล้เคียงรากที่สองของ 100 A) 100 // 10 B) 100 ** 1/2 C) pow(100, 0.5) D) math.sqrt(100) E) ใกล้เคียงทุกข้อ |
<2> |
ข้อใดตั้งเป็นชื่อฟังก์ชันได้ A) ___________ B) False C) ._._._._._. D) __-__-__-__ E) ไม่มีข้อใดถูก |
<3> |
ให้ x เป็น numpy array หนึ่งมิติเก็บจำนวนเต็ม f(x) ในข้อใดคืนจริง เมื่อ x มีข้อมูลในที่ซ้ำกัน เกิน 50% ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด ถ้าไม่มีคืนเท็จ (สมมติว่าได้ import numpy as np แล้ว) A) def f(x): N = x.shape[0] y = np.array([x]).T m = np.max(np.sum(x==y, axis=0)) return m > N/2 B) def f(x): N = x.shape[0] s = np.sum(x.dot(x.T),axis=0) m = np.max(s) return m > N/2 C) def f(x): N = x.shape[0] c = np.sum(x == sorted(x)[N//2]) return c > N/2 D) มีข้อที่ทำได้ตามต้องการ 2 ข้อ E) ไม่มีข้อใดถูก |
<4> |
ให้โปรแกรม Python ชื่อ p.py มีบรรทัดเดียวคือ print(open("p.py").readline().strip()) ถ้าสั่งโปรแกรมนี้ทำงานจะได้ผลอะไรทางจอภาพ A) readline().strip() B) print(open("p.py").readline().strip()) C) open("py.py").readline().strip() D) โปรแกรมทำงานแล้วเกิด error E) ไม่สามารถสรุปได้ว่าจะแสดงอะไร |
<5> |
ผู้เขียนตั้งใจให้โปรแกรมข้างล่างนี้ รับสตริงทางคีย์บอร์ด แล้วนับว่า สตริงนั้นมีเลขคู่อย่างละตัวกี่ตัว เมื่อนำโปรแกรมนี้ไปทำงานแล้วป้อน 12345 เป็นอินพุต จะเกิด error ที่คำสั่งในบรรทัดใด c = dict() # บรรทัดที่ 1 for e in input().split(): # บรรทัดที่ 2 if e not in [1,3,5,7,9] : # บรรทัดที่ 3 c[e] = c[e] + 1 # บรรทัดที่ 4 print(c) A) บรรทัดที่ 4 B) บรรทัดที่ 2 C) บรรทัดที่ 3 D) บรรทัดที่ 1 E) ทำงานได้ปกติ ไม่เกิด error |
<6> |
หากนำเลขประจำตัวนิสิต 10 หลักของนิสิตจำนวนหนึ่ง มาเรียงต่อกัน มีเครื่องหมาย : คั่นระหว่างเลขประจำตัว เช่น "5937015921:5934847821:5938763221" แล้วเก็บสตริงนี้ในตัวแปร IDs ตัวเลือกในข้อใดสามารถหาว่า เลขประจำตัวที่เก็บในตัวแปร sid ที่มีอยู่ใน IDs แน่ ๆ อยู่เป็นลำดับที่เท่าใดใน IDs (กำหนดให้ตัวซ้ายสุดคือ ลำดับที่ 1) A) IDs.find(sid)%11+1 B) (IDs.find(sid)+11)//11 C) IDs.find(sid)//10+1 D) IDs.find(sid)%10 E) ไม่มีข้อใดถูก |
<7> |
คำสั่งข้อใดมีโอกาสเกิด error ตอนทำงาน (ตัวแปร b กับ c มีค่ากำหนดให้แล้ว) A) a = b / c B) a = b - c C) a = b * c D) a = b + c E) มีโอกาสเกิด error ได้ทุกข้อ |
<8> |
ให้ d เป็น dict ที่มี - key เป็นรหัสลูกค้า - value เก็บลิสต์ของชื่อเกมที่ลูกค้าคนนี้ได้ซื้อไปแล้ว ข้อใดสร้าง s เป็น dict ที่มี - key เป็นชื่อเกม - value เก็บเซตของรหัสลูกค้าทั้งหมดที่ได้ซื้อเกมนี้ A) s = dict() x = [(k,e) for k in d for e in d[k]] for k,e in x: s[e] = set() for k,e in x: s[e].add(k) B) s = dict() for v in d.values: if v not in s: s[v] = set() s[v].add(d[v]) C) s = dict([(d[k],k) for k in d]) D) s = dict() x = [(k,e) for k in d for e in d[k]] for k,e in x: s[e].update(k) E) ไม่มีข้อใดถูก |
<9> |
ให้ m เป็นจำนวนเต็ม ข้อใดแทนเงื่อนไขว่า m เก็บเลขเดือนของ เดือนที่มีชื่อลงท้ายด้วย ยน A) not(m%2==1 and 0<m<8 or m%2==0 and 7<m<13) and m!= 2 B) 0<m<13 and not(m!=2 and m!=4 and m!=6 and m!=9 and m!=11) C) m is in [4,6,9,11] D) 1<=m<=12 or m==2 or m==4 or m==6 or m==9 or m==11 E) ถูกมากกว่า 1 ข้อ |
<10> |
ฟังก์ชัน f มีรายละเอียดข้างล่างนี้ def f(x, y): for e in x: y += e return y คำสั่งในข้อใดทำงานแล้วไม่เกิด error A) f({123}, [456]) B) f(((1), (2), (3)), [4,5,6]) C) f(((1,),(2,), (3,)), (4,5,6)) D) f([1,2,3], (4,5,6)) E) มีข้อที่ไม่เกิด error มากกว่า 1 ข้อ |
<11> |
เมื่อโปรแกรมข้างล่างนี้ทำงาน จะแสดงผลอะไร x = [[1,[2,[3,4]]],[5,[6,[7,8]]]] print(x.pop(1)[1][1]) A) 2 B) 7 C) [3, 4] D) 6 E) [7, 8] |
<12> |
ข้อใดทำงานแล้วจะวนในวงวนไม่สิ้นสุด A) a = 169 while a != 0: a -= 2 B) a = 169 while a != 0: a %= 13 C) a = 169 while a != 0: a //= 5 D) มีข้อที่ทำงานแล้วติดในวงวน 2 ข้อ E) ทุกข้อทำงานได้ไม่ติดในวงวน |
<13> |
ให้ d เป็น numpy array ขนาด 100x100 ให้ N = d.shape[0] และ M = d.shape[1] (สมมติว่าได้ import numpy as np แล้ว) ข้อใดทำให้ข้อมูลในแถวแนวนอนอินเด็กซ์เลขคี่ทั้งหมด มีค่าเป็น 0 ทั้งแถว A) d[::-2, ::] = 0 B) d[1:-1:2] = [0] C) d[np.arange(N)%2==0, np.arange(M)] = 0 D) d[range(0,N,2), range(M)] = 0 E) ไม่มีข้อใดถูก |
<14> |
ให้ d เป็น dict มี - คีย์ ชื่อจังหวัด, value เป็น dict ที่มี - คีย์ 'region', value เก็บชื่อย่อภาค - คีย์ 'population', value เก็บจำนวนประชากร - ชื่อย่อภาคประกอบด้วย N, E, W, S, C, NE นักเรียนคนหนึ่งเขียนฟังก์ชัน f(d) ข้างล่างนี้ มีหน้าที่ คืน dict ที่มีคีย์เป็นภาค, value เก็บจำนวนจังหวัดในภาค def f(d): c = {'NE':0, 'C':0, 'N':0, \ 'E':0, 'W':0, 'S':0} for p in d: r = d[p]['region'] # บรรทัด I for k in c: # บรรทัด II if r in k: # บรรทัด III c[r] += 1 # บรรทัด IV break # บรรทัด V return c หลังจากทดสอบการทำงานแล้ว พบว่า ได้คำตอบเกือบถูก ถ้าจะปรับฟังก์ชันนี้ ด้วยจำนวนการแก้ไขคำสั่งให้น้อยสุด ๆ เพื่อให้ทำงานได้ถูกต้อง ต้องแก้ไขที่บรรทัดใด A) บรรทัด IV B) บรรทัด I C) บรรทัด III D) บรรทัด II E) บรรทัด V |
<15> |
ข้อใดตรวจตัวแปร c ที่เก็บตัวพิมพ์เล็กตัวเดียวว่า เป็น v, w, x, y หรือ z หรือไม่ A) if c.find("vwxyz") != -1 : B) if 'v' =< c =< 'z' : C) if c is in "vxwyz" : D) if c == "vwxyz" : E) ไม่มีข้อใดถูก |