<1>
x = input()
print(x, x*2, x*3)
<2>
<3> np.sum(x-y,axis=1)
<4>
หาว่าในลิสต์มีเลขคี่หรือไม่
และอย่าลืมกด SUBMIT ด้วย (ส่งได้หลายครั้ง จะตรวจครั้งล่าสุด)
<1> |
จากคลาส A ข้างล่างนี้
class A:
def __init__(self, x, y):
self.a = x
self.b = y
self.c = x+y
ต้องทำอย่างไรกับคลาส A
เพื่อทำให้การทำงานคำสั่งข้างล่างนี้
a = A(2, 7)
b = A(3, 4)
print(a, b)
จะแสดงข้างล่างนี้ทางจอภาพ
[9, 2] [7, 3]
|
<2> |
จงเขียนคำสั่งที่คำนวณสูตรข้างล่างนี้
(ใช้ตัวแปร a, x, y และ z ได้เลย)
|
<3> |
จากคลาส A ข้างล่างนี้
class A:
def __init__(self, x, y):
self.a = x
self.b = y
ต้องทำอย่างไรกับคลาส A
เพื่อทำให้การทำงานคำสั่งข้างล่างนี้
a = A(2, 7)
a.action()
print(a.a, a.b)
จะแสดงข้างล่างนี้ทางจอภาพ
3 4
|
<4> |
จาก flowchart ถ้าเริ่มต้น a,b และ c มีค่า 30,40,300 ตามลำดับ
พอทำงานจนถึงวงกลมเลข 1 ด้านล่าง
a,b และ c จะมีค่าเท่าไร
|
<5> |
จงเขียนฟังก์ชัน f(x) ที่
คืนจริง ถ้าไม่มีตัวอังกฤษตัวพิมพ์เล็กใน x เลย
ไม่เช่นนั้นคืนเท็จ
โดยให้เขียนเพียงบรรทัดเดียวในฟังก์ชัน
ไม่มีการใช้เครื่องหมาย ; (semicolon)
|
<6> |
จาก flowchart ถ้าเริ่มต้น a,b และ c มีค่า 5,1,6 ตามลำดับ
พอทำงานจนถึงวงกลมเลข 1 ด้านล่าง
a,b และ c จะมีค่าเท่าไร
|
<7> |
โปรแกรมข้างล่างนี้แสดง * กี่ตัว
for i in range(3):
print('*')
for j in range(5):
print('*')
for k in range(4):
print('*')
|
<8> |
ฟังก์ชัน f(x) ข้างล่างนี้
รับ x เป็นจำนวนเต็มบวก
คืนลิสต์ของจำนวนเฉพาะต่าง ๆ ที่เป็นตัวประกอบของ x
เช่น f(63) คืน [3,3,7]
จงเติมคำสั่งแทนที่เครื่องหมาย **** และ ????
เพื่อให้ f ทำงานถูกต้อง
def f(x):
fac = []
k = 2
while **** : # <------
while ???? : # <------
x = x//k
fac.append(k)
k += 1
return fac
|
<9> |
จงเขียนฟังก์ชัน f(x, y)
- x และ y เป็น numpy array หนึ่งมิติเก็บจำนวนเต็ม
- ค่าใน x ไม่เท่ากันเลย และค่าใน y ก็ไม่เท่ากันเลย
- f(x,y) คืนจำนวนคู่ข้อมูลของ x กับ y
ที่มีค่าต่างกันเกิน 2
- ห้ามใช้คำสั่ง for, while, comprehension, map, reduce
เช่น f(np.array([2,4]),np.array([3,9,6]))
คืน 3 (คือคู่ 2 กับ 9, 2 กับ 6 และ 4 กับ 9)
|
<10> |
ให้ x เป็นลิสต์ของจำนวนเต็ม
ฟังก์ชัน f(x) ข้างล่างนี้ทำอะไร อธิบายสั้น ๆ ไม่เกิน 30 คำ
def f(x):
if len(x)==0: return 0
c = x[0]
k = 1
m = 1
for e in x[1:]:
if c == e:
k += 1
if k > m: m = k
else:
k = 1
c = e
return m
|