คำนำ
เขียนโดย พระสุเมธาจารย์
แปลโดย ศุภวรรณ กรีน
คุณศุภวรรณได้วางแผนและสะท้อนความคิดของเธอออกมาอย่างยอดเยี่ยมในใบไม้กำมือเดียวนี้
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า
ผลงานที่ชำนาญเช่นนี้จะต้องออกมาจากการปฏิบัติเป็นเวลานานจนสามารถที่จะบอกผู้คนถึงความหมายของชีวิตตลอดถึงการปฏิบัติที่เรียบง่ายเพื่อให้คนสามารถหยั่งถึงสัจธรรมอันสูงสุดได้
การมองโลกและความหวังของเธอที่มีต่อเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่สร้างความเบิกบานใจและก่อให้เกิดปีติเป็นอย่างยิ่ง
การยอมรับและบอกกล่าวแก่เพื่อนมนุษย์ว่าทุกคนล้วนมีโอกาสที่จะหาความสงบสุขให้แก่จิตใจตนเองอันเป็นหัวใจของทุกศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ฟังง่ายและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้คุณศุภวรรณได้พูดว่า พวกเราอาจจะเห็นเธอเป็นผู้อ่อนต่อโลกและโง่เขลา ที่จริงแล้ว
การมองโลกของเธอนั้นได้หยิบยื่นความหวังตลอดจนแนวทางที่ชัดเจนเพื่อช่วยเหลือคนให้หยั่งถึงสัจธรรมได้
คำสอนของพระพุทธองค์นั้นเน้นไปที่ การตื่น มันไม่ได้หมายถึงการเป็นชาวพุทธเท่านั้น
ฉะนั้น คำสอนทั้งหมดอยู่ที่การปลุกเร้าและแนะแนวทางเพื่อให้เกิดสติ
เพื่อว่าเราจะได้พิจารณาประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะ การจะทำเช่นนี้ได้
ทุกคนจะต้องมีความตื่นอย่างเต็มที่ และจะต้องให้ความสนใจต่อทุกขณะจิตของชีวิต
ใบไม้กำมือเดียวเป็นเสมือนกับไกด์ผู้นำทาง
คุณศุภวรรณเขียนจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเธอ ฉะนั้น
จึงไม่เหมือนกับวิธีการเขียนธรรมะของคนที่ไม่เคยผ่านการปฏิบัติมาก่อนที่มักจะเอาของเก่ามาใส่เครื่องปรุงใหม่
เพราะเนื้อหานั้นมีความใหม่สดและความมั่นใจที่จะออกมาได้ก็จากผู้ที่มีความรู้จากภายในโดยตรงเท่านั้น
อาตมาโชคดีมากพอที่ได้มีโอกาสบวชเป็นพระภิกษุและปฏิบัติเรียนรู้อยู่ที่ภาคอีสานของไทยถึง
๑๐ ปี ฉะนั้น
อาตมาจึงได้มีโอกาสจุ่มลงไปในวัฒนธรรมแห่งการรู้แจ้งของชาวพุทธไทยที่อยู่ในกรอบของประเพณีอันดั้งเดิม
แต่วัฒนธรรมที่ดีงามเหล่านี้ก็กำลังเปลี่ยนแปลงถดถอยและจืดจางตามกาลเวลาที่ผ่านไป
อาตมาต้องยอมรับว่าเห็นด้วยกับคุณศุภวรรณในเรื่องการให้ความเคารพและเป็นหนี้บุญคุณต่อวัฒนธรรมแห่งการรู้แจ้งนี้
สังขารทั้งหลายย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา อดีตนั้นไม่มีวันที่จะนำกลับมาได้
ความศรัทธาของมนุษย์นั้นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ปราศจากเวลา การตื่นได้เกิดขึ้นแล้วในยุโรป
ถึงแม้ว่าตามหน้าหนังสือพิมพ์จะเต็มไปด้วยข่าวร้ายที่รังแต่ทำให้จิตใจของผู้อ่านห่อเหี่ยวและเศร้าหมองก็ตาม
แต่อาตมาก็ยังมีความมั่นใจในคุณงามความดีของมนุษย์ และยินดีปรีดากับมนุษย์ผู้มีจิตสำนึกที่ได้สร้างผลงานที่ดีงามอย่างมากมายเหลือคณานับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเวลา
ความคิดและการมองโลกของคุณศุภวรรณนั้นจะช่วยให้เพื่อนมนุษย์สามารถสร้างความสัมพันอันดีงามต่อกันและกันได้และสามารถปลุกเร้าให้คนมีพลังในการที่จะสร้างทัศนคติอย่างเปิดเผยและเริ่มให้ความสังเกตต่อประสบการณ์ประจำวันของชีวิตอันเนื่องกับนิสัยและอารมณ์ความรู้สึก
มิเช่นนั้นแล้ว
มนุษย์มักจะมองซึ่งกันและกันอย่างข่มขู่หรือไม่ก็เยาะเย้ยถากถางในทุกเรื่องและดูอะไรเป็นแง่ลบไปเสียหมด
อาตมาเชื่อว่า ใบไม้กำมือเดียว ของคุณศุภวรรณนั้นจะได้รับการต้อนรับเข้าสู่วงการหนังสือธรรมะอย่างแน่นอน
พระสุเมธาจารย์[1]
กันยายน ๑๙๙๙/๒๕๔๒
วัดอมราวดี
เฮมเมล เฮมสเต็ด
อังกฤษ
[1] ท่านอาจารย์สุเมโธ
เป็นพระภิกษุชาวอเมริกันที่คนไทยส่วนมากรู้จักดีอยู่แล้วในฐานะที่เป็นลูกศิษย์คนสำคัญของหลวงพ่อชา
สุภัทโท ท่านเกิดปี ค.ศ.๑๙๓๔ / พ.ศ. ๒๔๗๗
ที่เมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน
สงครามเวียดนามได้เป็นสาเหตุที่นำท่านเดินทางมาสู่ภาคพื้นเอเซียอาคเนย์ในปี พ. ศ. ๒๕๐๗
และคงจะเป็นสงครามเวียดนามอีกเช่นกันที่ทำให้ท่านอยากจะหาความหมายแห่งชีวิต
ท่านคงจะทราบดีว่าตนเองได้มาอยู่ในภูมิภาคที่สามารถจะเสาะแสวงหาภูมิปัญญาอันลึกซึ้งของชีวิตแล้ว
จึงได้ตัดสินใจบวชเข้าสู่เพศบรรพชิตที่จังหวัดหนองคายในราวสามปีหลังจากที่ท่านได้จากบ้านเกิดมา
และต่อมาก็ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชาและฝึกการปฏิบัติแบบพระป่าที่วัดป่านานาชาติ
อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเวลาถึง ๑๐ปี ราวปี พ.ศ. ๒๕๒๐
หลวงพ่อชาได้พาลูกศิษย์ซึ่งเป็นพระฝรั่งสี่รูปคือ ท่านสุเมโธ ท่านเขมะธัมโม
ท่านอานันโทและท่านวีรธัมโม เดินทางมาโปรดญาติโยมที่อังกฤษ
ผู้คนศรัทธาคำสอนของหลวงพ่อมากและขอร้องให้หลวงพ่ออนุญาติให้พระฝรั่งของท่านอยู่ต่อเพื่อช่วยงานเผยแผ่คำสอนของศาสนาพุทธในอังกฤษ
ท่านอาจารย์สุเมโธจึงได้กลายเป็นพระผู้นำในประเทศอังกฤษเผยแผ่คำสอนที่เรียบง่ายของหลวงพ่อชาให้แก่ผู้ศรัทธาในอังกฤษและยุโรป
จากวิหารแฮมสเต็ดในชานกรุงลอนดอนซึ่งหลวงพ่อชามาอยู่กับพระฝรั่งของท่านในตอนแรกนั้น
ก็ค่อย ๆ ขยับขยายออกไป ปี พ.
ศ. ๒๕๒๒
วัดป่าจิตวิเวกที่ชิตเฮิร์สต์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นตลอดจนวัดในสาขาอีกสามสี่แห่งในอังกฤษ
และในที่สุดในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ฐานแห่งการเผยแผ่ธรรมก็ได้มาปักหลักที่วัดอมราวดี
ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงลอนดอนนัก
ได้มีการก่อสร้างวิหารและขยับขยายวัดตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้
วัดอมราวดีได้กลายเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรมที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงโด่งดัง
ทั้งในอังกฤษและยุโรป
ได้มีการจัดองค์กรอันเป็นระบบและมีระเบียบอย่างยิ่ง
ในพรรษาที่ผ่านมานี้มีพระสงฆ์ทั้งชาวเอเซียและชาวตะวันตกกว่า ๔๐ รูป แม่ชีราว ๒๐
ท่าน นอกจากนั้นก็มีผ้าขาว และฆราวาสที่อยู่ปฏิบัติอย่างถาวร
ซึ่งเปิดโอกาสให้ชาวตะวันตกมากมายได้เข้ามาเรียนรู้การปฏิบัติในพระพุทธศาสนา
รวมทั้งชาวพุทธเอเซียในอังกฤษเช่น ไทย จีน ลังกา ลาว เขมร พม่า
ก็สามารถเข้ามาทำบุญตามประเพณี ซึ่งนับว่าเป็นผลงานอันทรงคุณค่าที่ท่านสุเมโธได้ทำด้วยความเสียสละอย่างต่อเนื่องเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสังคมตะวันตก
จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๐
ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในชั้นเจ้าคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและมีนามใหม่ว่า
พระสุเมธาจารย์ อันเนื่องจากผลงานที่ดีเด่นของท่าน
ซึ่งเป็นพระฝรั่งรูปแรกและรูปเดียวที่ได้รับสมณศักดิ์ดังกล่าว
แต่ชาววัดอมราวดีมักจะเรียกท่านอย่างเรียบง่ายว่า หลวงพ่อสุเมโธ
ดิฉันได้มีโอกาสไปกราบนมัสการหลวงพ่อสุเมโธเมื่องานทอดกฐินที่วัดอมราวดีในเดือนพฤศจิกายน
๒๕๔๒ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีวิหารถาวรที่ใหญ่โตสามารถจุคนได้หลายร้อยคน ในวันนั้นมีพุทธศาสนิกชนหลายเชื้อชาติมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งราว
๓๐๐๔๐๐ คน ภาพของพระสงฆ์ นักบวชหญิง
และผ้าขาวร่วม๘๐ท่านที่เดินเหิรด้วยท่ามุทราอันสงบและมีสติเพื่อมารับอาหารบิณฑบาตรจากญาติโยมผู้ใจบุญและศรัทธาที่เรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบรอบวิหารนั้นทำให้ดิฉันเกือบลืมไปว่านี่เป็นเมืองอังกฤษ
มันเป็นภาพที่สร้างความปีติปราโมทย์ให้ดิฉันเป็นอย่างยิ่ง
ดิฉันอดนึกถึงหลวงพ่อชาไม่ได้ว่าท่านคงจะต้องภูมิใจในพระฝรั่งของท่านมากเพียงใดหากท่านได้มาเห็นภาพเช่นนี้
ดิฉันขอถือโอกาสนี้อนุโมทนาในผลงานอันทรงคุณค่ายิ่งของหลวงพ่อสุเมโธ และกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงที่กรุณาเขียนคำนำให้กับหนังสือเล่มนี้ของดิฉัน
ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของท่านเป็นอย่างยิ่ง